
ภาพ : TheoRivierenlaan จาก Pixabay
ในการเลือกวัสดุอุปกรณ์ต่าง ๆ ในการสร้างบ้าน ย่อมต้องคำนึงถึงสภาพแวดล้อมหรือสภาพภูมิอากาศ และความเหมาะสมอื่น ๆ ที่เป็นสภาพทั่วไป อย่างประเทศไทยของเรามักมีสภาพภูมิอากาศที่ร้อนอบอ้าว มีความชื้นอยู่ในอากาศพอสมควร ความเข้าใจและการศึกษาสภาพแวดล้อมโดยเฉพาะเจาะจงสำหรับสถานที่ที่เราเลือกจะลงหลักปักฐานจึงเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับนักออกแบบสร้างบ้าน เพื่อบรรลุจุดประสงค์ของการปลูกสร้างสถานที่อยู่อาศัยให้มีความแข็งแรงทนทานและใช้งานได้เป็นอย่างดี
แม้กระทั่งองค์ประกอบเล็ก ๆ แต่มีความสำคัญสำหรับบ้านอย่าง ประตู และหน้าต่าง การใส่ใจเลือกวัสดุที่จะนำมาใช้ก็เป็นสิ่งสำคัญ การรู้ถึงข้อดีข้อเสียของวัสดุที่เราจะนำมาใช้ทำให้สามารถเลือกตัดสินใจและหาวิธีการดูแลรักษาได้เป็นอย่างดี วัสดุที่คนนิยมนำมาประกอบเป็น ประตู และหน้าต่าง ได้แก่ วัสดุจำพวกไม้ ไวนิล อลูมิเนียม วัสดุอย่างไม้ ดูจะได้รับความนิยมมากที่สุด เพราะมีความสวยงามในตัวเนื้อวัสดุสูง สามารถตัด แกะสลัก ดัดแปลงให้มีความสวยงามได้ตามต้องการ แม้วัสดุอย่างไม้จะได้รับความนิยมในการนำมาทำประตูและหน้าต่าง แต่ด้วยความที่ประเทศไทยเรา มีสภาพภูมิอากาศที่ร้อนชื้น เมื่อมีความชื้นสะสม ไม้ของเราจะเกิดการพองตัวหรือบางแห่งเกิดเชื้อรา หลาย ๆ บ้านคงเคยประสบปัญหาประตูหรือหน้าต่างที่ทำจากไม้มีความฝืดเคือง หรืออยู่ดี ๆ ก็ไม่สามารถปิดได้สนิท นั่นเป็นเพราะความชื้นในสภาพแวดล้อมส่งผลต่อวัสดุเนื้อไม้ได้เป็นอย่างดีนั่นเอง

ภาพ : Gretta Blankenship จาก Pixabay
การเลือกวัสดุในการทำประตู และหน้าต่างยังคงมีทั้งข้อดีและข้อเสียในแต่ละวัสดุปะปนกันไป ที่สำคัญคือการเข้าใจสภาพแวดล้อมหรือสภาพอากาศที่จะส่งผลต่อวัสดุที่เราเลือกใช้โดยตรง ทั้งประตูและหน้าต่างมักตั้งอยู่ในทิศทางของสายลมและแสงแดด ดังนั้นจึงเป็นส่วนประกอบสำคัญที่เป็นส่วนหนึ่งในการควบคุมอุณหภูมิที่เกิดขึ้นภายในบ้าน รวมถึงเป็นส่วนของบ้านที่ได้รับผลกระทบจากสภาพแวดล้อมมากที่สุดไม่แพ้ผนังบ้านภายนอก ดังนั้น การจะเลือกวัสดุใดในการใช้เป็นส่วนประกอบ ให้คำนึงถึงความสัมพันธ์กับสภาพแวดล้อมเพื่อเป็นการยืดอายุการใช้งานขององค์ประกอบบ้านอย่างประตู หน้าต่างให้ใช้งานได้อย่างยาวนาน อยู่คู่กับตัวบ้านได้อย่างเหมาะสมยั่งยืนต่อไป